เมื่อรถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานทั่วโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้หลายคนเริ่มให้ความสนใจและอยากจะเปลี่ยนจากรถยนต์ระบบน้ำมันคันเดิม มาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสะอาดและประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า แต่นอกจากขุมพลังและสมรรถนะของเครื่องยนต์แล้ว อีกหนึ่งระบบของรถยนต์ไฟฟ้าที่ควรศึกษาให้ดี เพื่อให้การใช้งานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ก็คือระบบการชาร์จไฟ หรือ EV Charging Curve นั่นเอง
เมื่อการชาร์จพลังงานไฟฟ้า ถือเป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า แล้ว EV Charging Curve คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรกับการชาร์จรถยนต์บ้าง เราสรุปข้อมูลที่ต้องรู้มาไว้ให้ในบทความนี้แล้ว
EV Charging Curve คืออะไร ?
EV Charging Curve หรือ กราฟอัดประจุรถ EV คือ ความสัมพันธ์ระหว่างกำลังการชาร์จ (กิโลวัตต์) กับระดับการชาร์จของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (State of Charge: SoC) ตลอดช่วงเวลาที่ชาร์จ
ผู้ใช้รถยนต์ EV ต้องเข้าใจก่อนว่า การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านั้นค่อนข้างจะซับซ้อนกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป การเข้าใจในเรื่องของ EV Charging Curve จะช่วยให้สามารถชาร์จไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัย
ระดับการชาร์จของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (State of Charge: SoC) ส่วนใหญ่จะถูกแบ่งเป็น กราฟ 3 ช่วง คือ ช่วงชาร์จพลังงานสูงเริ่มต้น ช่วงการชาร์จพลังงานคงที่ และช่วงการลดลงของพลังงาน
ช่วงที่ 1 Initial High Power Stage: ช่วงพลังงานสูงเริ่มต้น
เป็นช่วงแรกของการชาร์จไฟ ซึ่งจะเป็นช่วงการชาร์จแบตเตอรี่ที่ 0 – 20% โดยกำลังการชาร์จจะสูงสุดตามความสามารถในการชาร์จของรถยนต์หรือเครื่องชาร์จ ซึ่งมีความเร็วในการชาร์จสูงสุด ช่วยย่นระยะเวลาในการชาร์จได้
การเลือก Wallbox ถ้าคุณต้องการการชาร์จแบบรวดเร็ว แนะนำให้เลือกติดตั้ง Wall Charger ที่มีกำลังการชาร์จสูง (เช่น 11 กิโลวัตต์ หรือ 22 กิโลวัตต์) แม้ว่ารถยนต์ของคุณอาจไม่สามารถใช้กำลังการชาร์จสูงสุดได้ตลอดเวลา แต่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จในช่วงนี้ได้
ช่วงที่ 2 Sustained Power Stage: ช่วงพลังงานคงที่
พอผ่านช่วงแรกไปได้ จนถึง State of Charge (SoC) ประมาณ 20 – 80% จะลดกำลังการชาร์จมาที่สูงปานกลางและคงที่ เพื่อถนอมการใช้งานแบตเตอรี่ไม่ให้เสื่อมเร็วกว่ากำหนด เนื่องจากการชาร์จไฟเร็วเกินไป หรือ Fast Charge อาจจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วได้เช่นเดียวกัน
ช่วงที่ 3 Tapering Stage: ช่วงการลดลงของพลังงาน
ช่วงสุดท้ายของการชาร์จแบตเตอรี่รถ EV คือ State of Charge (SOC) ในช่วง 80 – 100% ซึ่งกำลังในการชาร์จจะลดลงกว่าเดิม เพื่อปกป้องแบตเตอรี่ไม่ให้เสื่อมเร็ว อีกทั้งยังช่วยลดความร้อนจากการชาร์จแบตเตอรี่ได้อีกด้วย
ความสำคัญของ EV Charging Curve
EV Charging Curve ไม่ใช่แค่ตัวเลขหรือกราฟที่บอกระดับการชาร์จของแบตเตอรี่เท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อการเลือกซื้อและการใช้งานรถยนต์ EV ที่สำคัญ ดังนี้
บอกอัตราความเร็วในการชาร์จ
EV Charging Curve ช่วยระบุระยะเวลาหรือความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ในแต่ละช่วงเวลา ทำให้ทราบว่าในแต่ละช่วงจะใช้เวลาชาร์จรถยนต์นานแค่ไหน ช่วยให้สามารถวางแผนการชาร์จระหว่างเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนใหญ่แล้วในการเดินทางระยะไกล ๆ ผู้ขับขี่รถยนต์ EV มักจะชาร์จแบตเตอรี่ถึงแค่เพียง 80% เพราะระยะเวลาชาร์จจาก 80 – 100% ค่อนข้างกินระยะเวลานาน และไม่คุ้มค่าแก่การรอคอย นอกจากนี้ยังทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วอีกด้วย
ช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
การชาร์จไฟรถยนต์ EV ให้เต็ม 100% อยู่เสมอ ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น ซึ่ง EV Charging Curve จะแสดงค่า SOC ที่เหมาะสมแก่การชาร์จ ซึ่งก็คือ 20 – 80% และพยายามรักษาแบตเตอรี่ไม่ให้เหลือน้อยกว่า 20% เพราะอาจจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วเช่นเดียวกัน
ใช้วางแผนการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ในการเดินทางไกลได้เป็นอย่างดี
ช่วยให้สามารถทราบระยะทางที่ใช้หลังจากชาร์จแบตเตอรี่ รวมถึงระยะเวลาที่ต้องใช้ ทำให้สามารถกำหนดจุดแวะพักและชาร์จไฟที่สถานีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีการดู EV Charging Curve ด้วยตัวเอง
สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ EV สามารถดู EV Charging Curve ด้วยตนเองได้ง่าย ๆ เพื่อวางแผนการเดินทางและวางแผนการชาร์จเพื่อยืดอายุการใช้งาน ดังนี้
- หน้าจอในรถยนต์ที่แสดงข้อมูลการชาร์จ โดยจะแสดง SOC เปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ และกำลังไฟในการชาร์จ (Charging Power (KW)) ทำให้สามารถติดตาม EV Charging Curve ได้แบบ Real Time
- แอปพลิเคชันของผู้ผลิตรถยนต์ เมื่อเชื่อมต่อแล้ว จะสามารถดูข้อมูลได้แบบ Real-time เช่นเดียวกับบนหน้าจอในรถยนต์
อยากเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่าลืมให้ความสำคัญกับการเลือกใช้เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน รวมถึงผู้ให้บริการติดตั้งที่เชื่อถือได้ เพราะนอกจากจะส่งผลถึงประสิทธิภาพในการใช้งานแล้วยังรวมถึงความปลอดภัยในทรัพย์สินของผู้ใช้งานด้วย
พิธาน กรีน ตัวแทนจำหน่ายและติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจร ทั้งการออกแบบและติดตั้ง ดูแลทุกขั้นตอนโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ การันตีมาตรฐานและความปลอดภัยในการใช้งานในระยะยาว สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทันทีที่เว็บไซต์ phithangreen