“แบตเตอรี่” ขุมพลังที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถขับเคลื่อนพาคุณไปสู่จุดหมายได้อย่างราบรื่น ทว่า นอกเหนือจากการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100% เพื่อให้พร้อมสำหรับการเดินทางอย่างที่เราเห็นกันโดยทั่วไปแล้ว รู้หรือไม่ว่าเลขเปอร์เซ็นต์ในการชาร์จไฟ หรือที่เรียกว่า ค่า SoC แบตเตอรี่นั้นคืออะไร และคำนวณมาจากไหน วันนี้เราจะมาเจาะลึกเลขเปอร์เซ็นต์ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอให้ทุกคนเข้าใจอย่างกระจ่าง ติดตามเลย
ค่า SoC แบตเตอรี่คืออะไร ?
SoC หรือที่ย่อมาจาก State of Charge คือเกณฑ์บ่งบอกระดับพลังงานที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า แสดงผลเป็นเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ 0% (แบตเตอรี่หมด) ถึง 100% (แบตเตอรี่เต็ม) ค่านี้ได้มาจากการวัดแรงดันไฟฟ้าในแต่ละเซลล์ย่อยของแบตเตอรี่ และนำมาเปรียบเทียบกับความจุทั้งหมดที่แบตเตอรี่สามารถเก็บได้
ค่า SoC แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าสำคัญอย่างไร ?
- ค่า SoC battery คือสิ่งที่ช่วยคุณประเมินระยะทางที่สามารถขับต่อได้อย่างแม่นยำ ทำให้คุณวางแผนการเดินทางได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะติดอยู่กลางทางเพราะแบตเตอรี่หมด
- ค่า SoC แบตเตอรี่คือเครื่องมือสำคัญในการวางแผนการชาร์จ ทำให้ทราบว่าเมื่อไรควรชาร์จเพิ่มเพื่อให้มีพลังงานเพียงพอสำหรับการเดินทาง รวมถึงช่วยหลีกเลี่ยงการชาร์จที่ไม่จำเป็น (กรณีที่แบตเตอรี่เต็มความจุแล้ว) ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
- การเข้าใจและใช้ค่า SoC อย่างถูกต้อง จะช่วยรักษาสุขภาพของแบตเตอรี่ในระยะยาว เพราะการรักษาระดับ SoC ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม ไม่ต่ำหรือสูงเกินไป จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้
- สุดท้าย State of Charge คือสิ่งที่ช่วยในการทำงานของระบบจัดการพลังงานรถ ส่งผลให้สามารถกระจายและใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การขับขี่จึงราบรื่นและประหยัดพลังงานมากขึ้น
การคำนวณค่า SoC แบตเตอรี่เบื้องต้นด้วยวิธีการวัดคูลอมบ์
วิธีหนึ่งที่ใช้คำนวณค่านี้ค่า SoC แบตเตอรี่คือการวัดคูลอมบ์ ซึ่งเป็นวิธีที่เข้าใจง่ายแต่มีประสิทธิภาพ โดยมีสูตรการคำนวณดังนี้
SoC (%) = (Q_remaining / Q_total) x 100
- Q_remaining คือ ปริมาณประจุไฟฟ้าที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่ (หน่วยเป็นคูลอมบ์)
- Q_total คือ ความจุทั้งหมดของแบตเตอรี่ (หน่วยเป็นคูลอมบ์)
วิธีนี้วัดปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหลเข้าและออกจากแบตเตอรี่ตลอดเวลา แล้วนำมาคำนวณหาปริมาณประจุที่เหลืออยู่
แนวทางการถนอมค่า SoC แบตเตอรี่ ให้แม่นยำได้อย่างยาวนาน
- หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% บ่อยเกินไป เพราะแม้จะดูเหมือนเป็นสิ่งที่ดี แต่การชาร์จเต็มบ่อย ๆ อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น แนะนำให้รักษาระดับการชาร์จไว้ที่ประมาณ 20-80% เพื่อยืดอายุการใช้งาน
- การชาร์จแบตเตอรี่ในพื้นที่ที่ร้อนจัดอาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน ดังนั้น แนะนำให้พยายามชาร์จในที่ร่มเพื่อรักษาสภาพแบตเตอรี่
- อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงจนเหลือ 0% เนื่องจากการทำเช่นนี้บ่อย ๆ จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น และส่งผลต่อความแม่นยำของค่า SoC ในระยะยาว
- ไม่ควรชาร์จแบบ DC ถ้าไม่จำเป็น ถึงแม้จะชาร์จได้เร็ว แต่การชาร์จแบบนี้ทำให้แบตเตอรี่ร้อนขึ้น ส่งผลต่ออายุการใช้งานในระยะยาว แนะนำให้ใช้เฉพาะเมื่อจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น
การทำตามแนวทางเหล่านี้จะช่วยให้แบตเตอรี่รถยนต์ EV มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน รักษาความแม่นยำของค่า SoC ได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญคุณจะสามารถใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
เมื่อได้รู้แล้วว่าค่า SoC แบตเตอรี่คืออะไร และสำคัญอย่างไร ดังนั้น ถ้าอยากถนอมให้รถ EV ของคุณมีค่า SoC แบตเตอรี่ในเกณฑ์ดีได้ยาวนาน แนะนำให้เลือกติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านราคาคุ้มคุณภาพกับพิธาน กรีน ตัวแทนจำหน่ายและติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจร ออกแบบ ติดตั้ง และดูแลโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญทุกขั้นตอน ถ้าสนใจสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของเราได้ทาง โทร. 065-628-5566 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ phithangreen เลย